สุขภาพการเงินที่ดี (Money Fitness)

 

คุณอยากรวยไหม?

เชื่อว่าคำถามข้างต้น น่าจะเป็นคำถามที่หากลองได้ถามใครแล้ว ก็คงทายคำตอบได้ไม่อยาก ทั้งนี้เพราะเชื่อว่าโดยส่วนใหญ่แล้ว คนเราก็อยากที่จะเป็นคนรวยด้วยกันทั้งนั้น

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ก็ในเมื่อใครๆ ก็อยากรวยกันทั้งนั้น แล้วทำไมในชีวิตจริง ถึงมีเพียงบางคนเท่านั้นที่ร่ำรวยได้จริง ในขณะที่คนส่วนใหญ่เป็นได้แค่ “คนอยากรวย”

(ลองนึกถึงเรื่องราวชีวิตทางการเงินของตัวเอง แล้วทายคำตอบดูครับ)

จากประสบการณ์ของการเป็นโค้ชการเงินมาหลายปี ได้พบปะและให้คำปรึกษาผู้คนมากมาย ทั้งคนรวยและคนอยากรวย ผมพบความจริงข้อหนึ่งว่า สิ่งที่ทำให้ผลลัพธ์ทางการเงินของคนสองกลุ่มนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็คือ วิธีบริหารเงิน

ไม่ว่าคุณจะหาเงินได้มากแค่ไหน หาเงินมาได้ด้วยวิธีการอะไร แต่สุดท้ายหากคุณไม่สามารถบริหารจัดการเงินในมือให้อยู่กับตัว หรือต่อยอดมันให้เพ่ิมพูนขึ้นมาได้ คุณก็จะเป็นได้แค่คนอยากรวยไปตลอดชีวิต

ด้วยเหตุนี้เราจึงยังคงเห็นผู้คนจำนวนมากเหนื่อยกับการ “หาเงิน” มีธุรกิจใหญ่แค่ไหนก็ยังต้องเหนื่อย ต้องวิ่ง ต้องหมุนเงินไม่รู้จักจบสิ้น เข้าทำนองธุรกิจรวย แต่เจ้าของไม่มีสตางค์

ที่แย่ก็คือ คนเหล่านี้คิดว่า “เงินแก้ปัญหาเรื่องเงิน” จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินให้ได้มากขึ้น โดยไม่เคยคิดปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารเงินที่ได้มาให้ถูกต้อง สร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับมัน เพื่อที่ว่าวันหนึ่งจะได้หยุดพัก และมีเวลาใช้ชีวิตที่มีความสุขตามที่ฝันได้

ลูกค้าที่มาขอคำปรึกษาของผมหลายท่าน มีธุรกิจนับสิบล้าน แต่บริหารเงินเข้าออกไม่เป็น เอาเงินกิจการมาใช้จ่ายในครอบครัว ชีวิตภายนอกดูดีมีฐานะ แต่เมื่อเอางบการเงินมากาง ถึงได้รู้ตัวว่าธุรกิจทำกำไรได้น้อยกว่าค่าใช้จ่ายรายเดือนอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำงานนานเข้า หนี้สินก็เพ่ิมมากขึ้นทุกวัน

กว่าจะเอะใจสงสัย และตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เงินมันหายไปไหนหมด” ก็เป็นหนี้หลายสิบล้านไปแล้ว

ในมุมมองของผม ความมั่งคั่งร่ำรวยเริ่มต้นที่การบริหารจัดการเงินในมือ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ความมั่งคั่งเร่ิมต้นที่การใช้จ่าย (ไม่ใช่เงินที่หาได้)

เร่ิมง่ายๆ แค่ใช้จ่ายให้น้อยกว่าที่หาได้ มีเงินออม แล้วค่อยนำเงินที่ออมได้นั้นไปสร้างการลงทุน เพื่อเป็นแหล่งรายได้เพ่ิมเติม (เกมคนรวย)

ไม่ใช่ว่าขนาดแค่เงินใช้จ่ายยังไม่พอ แต่กล้าหวังกล้าฝันไปถึงความร่ำรวย โฟกัสแต่หาเงินเพ่ิม โดยไม่มองหลังบ้านตัวเอง (เกมคนจน)

การเฝ้าฝันถึงความมั่งคั่งร่ำรวย โดยที่สภาวะพื้นฐานทางการเงินยังไม่ได้เรื่องนั้น ไม่ต่างอะไรกับคนที่สุขภาพไม่ค่อยดี เจ็บออดๆแอดๆ แต่กล้าฝันไกลถึงการเป็นนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิค

จะรวยได้ยังไง? หากวันนี้เงินเดือนยังใช้ไม่เคยพอ

จะรวยได้ยังไง? ถ้าวันนี้เงินเก็บสักบาทยังแทบไม่มี

จะรวยได้ยังไง? หากวันนี้ยังต้องปวดหัวกับใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตทุกเดือน

จะรวยได้ยังไง? ถ้าวันนี้เกิดเจ็บป่วยขึ้นมา ยังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมารักษา

……… ฯลฯ ……..

นักฟุตบอลระดับโลก ยังต้องฝึกเลี้ยงบอล ส่งบอล และยิงประตูทุกวัน

ดังนั้น ก่อนที่เราจะฝันไกลไปถึงความร่ำรวย เราจึงควรดูแลสภาวะทางการเงินขั้นพื้นฐานของตัวเองให้ดีเสียก่อน เพราะพื้นฐานที่ดีจะทำให้เราสามารถต่อยอดในทุกสิ่งที่ต้องการได้

ในทางการเงิน ผมเรียกสภาวะดังกล่าวนี้ว่า การมี “สุขภาพทางการเงินที่ดี”

สุขภาพทางการเงินที่ดี (Money Fitness) หมายถึง การมีสภาวะทางการเงินที่เหมาะสมแก่การดำรงชีวิต เพียงพอ และเป็นพื้นฐานสู่ความมั่งคั่งได้ หรือพูดให้ง่ายก็คือ เอาตัวรอดในชีวิตประจำวันได้ และมีพื้นฐานที่ดีในการต่อยอดสู่ความร่ำรวย

โดยองค์ประกอบของการมีสุขภาพทางการเงินที่ดีนั้น ประกอบไปด้วยสภาวะพื้นฐาน 6 ประการ คือ

  1. สภาพคล่องดี
  2. ปลอดหน้ีจน
  3. พร้อมชนความเสี่ยง
  4. มีเสบียงสำรอง
  5. สอดคล้องเกณฑ์ภาษี
  6. บั้นปลายมีทุนเกษียณ

ท้ังนี้ ผู้ที่จะมีสุขภาพทางการเงินที่ดีได้ ต้องมีทั้งความรู้และทักษะทางการเงินที่ถูกต้อง และปฏิบัติจนเกินผลดีจริงในชีวิต

ส่วนใครที่อยากรู้ว่าตัวท่านมีสุขภาพทางการเงินเป็นอย่างไรนั้น

ติดตามอ่านฉบับหน้าครับ

3 คิดบน “สุขภาพการเงินที่ดี (Money Fitness)

  1. เล็ก

    จะรวยได้ยังไง? หากวันนี้เงินเดือนยังใช้ไม่เคยพอ

    จะรวยได้ยังไง? ถ้าวันนี้เงินเก็บสักบาทยังแทบไม่มี

    จะรวยได้ยังไง? หากวันนี้ยังต้องปวดหัวกับใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตทุกเดือน

    จะรวยได้ยังไง? ถ้าวันนี้เกิดเจ็บป่วยขึ้นมา ยังไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมารักษา

    ( จะรวยได้ยังไง หากได้แต่ฝันแต่ไม่ทำอะไรขึ้นมาสักอย่างเลย)

ใส่ความเห็น